ชลบุรี ลุงวัย 54ปี ปั่นจักรยาน วอนหน่วยงานช่วยเหลือพ่อถูกโกงจนหมดตัว



ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิทขาเข้าสัตหีบ ช่วงตรงข้ามอันเดอร์วอเตอร์เวิล์ดพัทยา จ.ชลบุรี หลังทราบว่ามีชายสูงอายุ ปั่นจักรยาน โดยมีป้ายติดจำนวนหลายป้าย โดยในป้ายมีข้อความระบุ “โดนโกงจนหมดเนื้อประดาตัวถูกทอดทิ้งไร้คนช่วย” และ “ผู้เฒ่าชราโดนโกงหมดตัวถูกทอดทิ้ง” แล้วก็มีเบอร์โทรศัพท์ โดยพบกับนายไตรทิพ มาลีวงษ์ อายุ 54 ปี ได้จอดรถจักรยาน อยู่ริมป่าข้างทาง เพราะไม่สามารถปั่นไปต่อได้เนื่องจากมีอาการจะเป็นลม เพราะตัวเองก็สุขภาพไม่ดี
นายไตรทิพ มาลีวงษ์ เล่าว่า ตนเองปั่นจากบ้านมาหลายสิบกิโลเมตร เพราะต้องการให้คนเห็นและนำไปแชร์เพื่อลงโซเซียลต้องการให้ผู้สื่อข่าวเห็นเพราะพ่อตนเองที่มีอายุมากถูกลูกโกงที่ดินและไม่เหลียวแล โดยนายไตรทิพนั้นเคยร้องไปยังหน่วยงานหลายที่ไม่ว่าจะเป็น สภ.ห้วยใหญ่ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบางละมุง แม้กระทั่ง สส. ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย เรื่องก็เกิดมาเกือบ 3 ปี แล้ว วันนี้เลยตัดสินใจปั่นจักรยานออกมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะปั่นไปถึงไหน เพียงแต่อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ
โดยเรื่องเกิดตั้งแต่ปี 61 นายชุบ มาลีวงษ์ พ่อตนเองปัจจุบันอายุ 92 ปี ถูกน้องสาวตนเองโกงที่ดินที่เป็นของพ่อกับนางบุญชู มาลีวงษ์ อายุ 71 ปี แม่ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 61 ซึ่งมีที่ดินประมาณ 2 งาน อยู่ในพื้นที่บ้านมาบฟักทอง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งปัจจุบันมีบ้านอยู่ 1 หลัง แต่ทางน้องสาวนางสาวจรรยา มาลีวงษ์ ไม่ให้พ่อเข้าไปอยู่ทั้งๆที่ที่ดินก็เป็นชื่อของพ่อตนเอง ปัจจุบันตนเองก็ดูแลพ่อเท่าที่จะดูแลได้จนหมดเนื้อหมดตัวเพราะไม่มีรายได้อะไรเข้ามา เพียงอยากให้บ้านและที่ดินผืนดังกล่าวคืนให้พ่อเท่านั้น
นายไตรทิพยังเล่าต่ออีกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องมาตนเองได้ไปแจ้งความลงบันทึกไว้ที่ สภ.ห้วยใหญ่ วันที่ 25 ก.ย.61 โดยมีหนังสือมอบอำนาจจากนายชุบ รวมทั้งพ่อก็เขียนหนังสือระบายความในใจด้วยลายมือของตนเองมีใจความว่า “ ขอความเป็นธรรมให้ผมด้วยผมมีฐานะยากจนไม่สามารถจ้างทนายได้ โดยนางจรรยาลูกสาวแอบเอาที่ดินไปขาย พอเรื่องแดงขึ้นก็เกิดพาลไม่พอใจมาบุกรุกบ้านของตน ตนเองต้องการให้ทนายหรือคนที่สามารถช่วยเหลือได้ฟ้องเอาที่ดินคืนมา ซึ่งตนนั้นมีอายุมากแล้วและมีโรคประจำตัวหลายโรค”
นายไตรทิพยังกล่าวทิ้งท้ายว่าอยากให้หน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือได้เข้ามาช่วยเหลือเพราะพ่อตนเองเดือดร้อนมาก นอกจากนั้นเคยไปขอความช่วยเหลือ สส.ในพื้นที่ก็ได้แต่รับปากแต่เรื่องก็เกิดขึ้นมาเกือบ 3 ปี แล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย จึงตัดสินใจปั่นจักรยานไปเรื่อยๆเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพ่อตนเอง
ภาพ/ข่าว อนันต์ สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี