คืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา​ วิสามัญคนร้ายเสียชีวิต 3 ราย มอบตัว​ 1​ราย​

11

จากกรณี​ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายต่อคนร้ายตามหมาย ป.วิอาญาที่พบความเคลื่อนและเข้ามาหลบซ่อนบริเวณใกล้มัสยิดนูรุลอีมาน บ.โคกเค็ด ม.6 ต.บ้านนา อ.จะนะ จว.ส.ข.เมื่อช่วงเช้าของวันนี้​  (3 ก.พ.65)​ โดยได้ขอรับการสนับสนุนกำลังฝ่ายทหารเข้าสนับสนุนในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน จากนั้นได้ขอความร่วมมือผู้นำศาสนา​  ผู้นำท้องที่​ ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่​พร้อมเครือญาติช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายออกมามอบตัวแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. คนร้าย จำนวน 4 คน พร้อมอาวุธครบมือ ได้เปิดฉากยิงใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเองโดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 3 ราย โดยทราบว่ามีคนร้ายอีก1รายหลบซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวจึงได้ปิดล้อมไว้ ล่าสุดผลจากการเจรจาคนร้ายได้ยินยอมออกมามอบตัวทราบชื่อนายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะ ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการมีหมายจับป.วิอาญารวม​ 8​ หมาย

นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธปืนได้4กระบอกประกอบด้วย AK – 47 จำนวน 1 กระบอก, ปืนติดกล้องเล็งแบบซุ่มยิง 1กระบอกปืนเล็กยาวขนาด​ 5.56 จำนวน​1​ กระบอกและ ปืนพกขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ซึ่งจะได้นำไปตรวจพิสูจน์หาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป

ทั้งนี้จากประวัติและพฤติกรรมของคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 4​ ราย พบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการและระดับปฏิบัติการ มีหมายจับรวมกันถึง​ 20.หมาย​ เคยก่อเหตุความรุนแรงที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ถึง ปัจจุบัน

โดยภายหลังเกิดเหตุได้มีการใช้สื่อโซเชียล บิดเบือนกล่าวหา​ว่า​ “เจ้าหน้าที่เข้าไปยิงคนมุสลิมเสียชีวิต3ศพขณะละหมาดในมัสยิด” และอีกหลายๆประเด็น โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า.ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงมัสยิด​ไม่ใช่เกิดในมัสยิดตามที่กล่าวอ้าง จึงใคร่ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายกรุณาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนที่จะแชร์ออกไป เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรงและอาจมีความผิดตามกฏหมาย

สำหรับการปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นการใช้อำนาจตามกฏหมายปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับโดยร้องขอกำลังทหารเข้าสนับสนุนในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเท่านั้น กอ.รมน.ภาค​ 4  ส่วนหน้า.ยังคงยืนยันในเจตนารมย์ในการบังคับใช้กฏหมายโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเน้นการเจรจาให้ออกมามอบตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสีย​ ซึ่งล่าสุด​ นายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะได้ออกมามอบตัวและสามารถเข้าพิสูจน์ตัวเองต่อสู้คดีตามกระบวนการทางกฏหมายที่พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกับต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือ จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ภาพ-ข่าว อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here