จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายต่อคนร้ายตามหมาย ป.วิอาญาที่พบความเคลื่อนและเข้ามาหลบซ่อนบริเวณใกล้มัสยิดนูรุลอีมาน บ.โคกเค็ด ม.6 ต.บ้านนา อ.จะนะ จว.ส.ข.เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (3 ก.พ.65) โดยได้ขอรับการสนับสนุนกำลังฝ่ายทหารเข้าสนับสนุนในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน จากนั้นได้ขอความร่วมมือผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่พร้อมเครือญาติช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายออกมามอบตัวแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. คนร้าย จำนวน 4 คน พร้อมอาวุธครบมือ ได้เปิดฉากยิงใส่ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเองโดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 3 ราย โดยทราบว่ามีคนร้ายอีก1รายหลบซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวจึงได้ปิดล้อมไว้ ล่าสุดผลจากการเจรจาคนร้ายได้ยินยอมออกมามอบตัวทราบชื่อนายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะ ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการมีหมายจับป.วิอาญารวม 8 หมาย
นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธปืนได้4กระบอกประกอบด้วย AK – 47 จำนวน 1 กระบอก, ปืนติดกล้องเล็งแบบซุ่มยิง 1กระบอกปืนเล็กยาวขนาด 5.56 จำนวน1 กระบอกและ ปืนพกขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ซึ่งจะได้นำไปตรวจพิสูจน์หาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป
ทั้งนี้จากประวัติและพฤติกรรมของคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 4 ราย พบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการและระดับปฏิบัติการ มีหมายจับรวมกันถึง 20.หมาย เคยก่อเหตุความรุนแรงที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ถึง ปัจจุบัน
โดยภายหลังเกิดเหตุได้มีการใช้สื่อโซเชียล บิดเบือนกล่าวหาว่า “เจ้าหน้าที่เข้าไปยิงคนมุสลิมเสียชีวิต3ศพขณะละหมาดในมัสยิด” และอีกหลายๆประเด็น โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า.ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงมัสยิดไม่ใช่เกิดในมัสยิดตามที่กล่าวอ้าง จึงใคร่ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายกรุณาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนที่จะแชร์ออกไป เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อเหตุรุนแรงและอาจมีความผิดตามกฏหมาย
สำหรับการปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นการใช้อำนาจตามกฏหมายปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับโดยร้องขอกำลังทหารเข้าสนับสนุนในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเท่านั้น กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า.ยังคงยืนยันในเจตนารมย์ในการบังคับใช้กฏหมายโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเน้นการเจรจาให้ออกมามอบตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสีย ซึ่งล่าสุด นายจิรศักดิ์ เพ็งเลาะได้ออกมามอบตัวและสามารถเข้าพิสูจน์ตัวเองต่อสู้คดีตามกระบวนการทางกฏหมายที่พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกับต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือ จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาพ-ข่าว อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา