พล.ต. นฤทธิ์ ถาวรวงษ์  ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า กองกำลังผาเมือง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2  ยังคงเพิ่มมาตรการการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ภายหลังพบว่า สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ ยังคงปรากฏข่าวสารความพยายามในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่แนวชายแดน เข้าสู่พื้นที่ตอนใน  ซึ่งปัจจุบันกลุ่มขบวนการฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการและเส้นทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ปัจจุบันกองกำลังผาเมือง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2 กำหนดพื้นที่เพ่งเล็ง จำนวน 9 พื้นที่ เพื่อให้การสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านการข่าว

จากการเพิ่มมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้การปฏิบัติในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในห้วงเดือนตุลาคม2565 ถึงปัจจุบัน จำนวน  138  ครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 156 คน กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 8 ศพ ตรวจยึดยาบ้า 24 ล้าน 8 แสนเม็ดเศษ, ไอซ์ 222 กิโลกรัม, เฮโรอีน 45.3 กิโลกรัม และฝิ่น 19 กิโลกรัม    ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติการจับกุมในห้วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า มีผลการจับกุมยาเสพติดได้เพิ่มมากขึ้น

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวต่อว่า สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ พบว่า กองกำลังชนกลุ่มน้อยในเมียนมา ยังคงมีความต้องการงบประมาณจำนวนมาก ในการดูแลกองกำลังและมวลชน ซึ่งบางกลุ่มมีรายได้จากการค้า ยาเสพติด กลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดรายสำคัญ คือ กลุ่มกองทัพสหรัฐว้า, กลุ่มโกกั้ง และกลุ่มเมืองลา ซึ่งต้นทุนผลิตยาเสพติดโดยเฉพาะสารตั้งต้น ลดลง ทำให้ราคายาเสพติดถูกลง และกลุ่มผู้เสพมีแนวโน้มเข้าหายาได้ง่ายขึ้น จึงทำให้มีการลักลอบลำเลียง เข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น  โดยตลาดในต่างประเทศ มีความต้องการยาเสพติดในปริมาณที่มากขึ้น              

นอกจากนี้พื้นที่ชายแดนด้าน จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดเชียงราย อยู่ใกล้แหล่งผลิต ตามแนวชายแดน จึงเป็นพื้นที่หลักที่กลุ่มขบวนการฯ ใช้เป็นทางผ่านในการลักลอบ ลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศที่สาม   ทั้งนี้ กองกำลังผาเมือง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยก 2  ได้เตรียมความพร้อมในการสกัดกั้น พร้อมจัดอบรมการบังคับใช้กฎหมาย  ที่เกี่ยวข้องให้กับกำลังพล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการป้องกันและสกัดกั้น ยาเสพติด

ภาพ-ข่าว หม-กาญจนา จ.เชียงใหม่